เฮลโหลว วันนี้มาม๊าชวนมาทำกิจกรรมสนุกๆเล่นกับเจ้าป่วนที่บ้านต้อนรับเทศกาลคริสมาสนี้กันค่ะ
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณป๋าและมาม๊าพาเด็กน้อยไปเที่ยวนอกบ้าน เด็กน้อยตื่นเต้นกับต้นคริสมาสต้นใหญ่ตกแต่งไฟสวย มีลูกบอลและดาวเต็มไปหมด มาม๊าเลยอยากหาต้นคริสมาสมาไว้ให้นางเล่นที่บ้านบ้างงงง แต่ไม่อยากจ่ายเงินแพงๆ แล้วก็ขี้เกียจทำต้นคริสมาสเองด้วยอ้า ทำไงดี
ลอง Search หาวิธีทำต้นคริสมาสง่ายๆให้เจ้าเด็ก ก็เจอ Christmas Tree Balance Activity นี่เล้ย
กิจกรรมนี้ขอบอกว่าจัดเตรียมง่าย ใช้อุปกรณ์นิดเดียว และไม่เพียงสร้างความสนุกเท่านั้นแต่ยังช่วยให้หนูน้อยของเราได้ฝึกการทรงตัว ฝึกทักษะการใช้มือ, กล้ามเนื้อ, ทักษะในการเคลือนไหว ฝึกแก้ไขปัญหา และการเล่นตามเงื่อนไขที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งขึ้นแบบสนุกๆกันค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
- เทปกาวสีเขียว สำหรับทำต้นคริสมาส
- กระดาษสี เพื่อทำของตกแต่งต้นคริสมาส เช่น ลูกบอล ดาว กล่องของขวัญ
- กรรไกร กาว
- พื้นที่ว่างๆสำหรับติดต้นคริสมาส :)
เมื่อติดเทปกาวบนพื้นเป็นรูปต้นคริสมาสแบบง่ายๆ และทำของตกแต่งต้นคริสมาสเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็มาเริ่มเล่นกันเลย!!
เริ่มจากคุณพ่อคุณแม่ตั้งเงื่อนไขกับเด็กๆให้นำของตกแต่งชนิดต่างๆไปติดบนกิ่งต้นคริสมาส โดยจะต้องเดินบนเส้นสีเขียวที่สมมติว่าคือต้นคริสมาส กำชับเด็กน้อยว่าอย่าเดินออกนอกเส้นสีเขียวไม่งั้นเราจะตกจากต้นไม้ เมื่อนำของไปติดตามกิ่งของต้นคริสมาสแล้วก็เดินกลับมาตามเส้นสีเขียว พยายามให้เดินอยู่บนเส้นสีเขียวนะจ๊ะ หากเป็นเด็กเล็กๆแบบบ้านนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเริ่มเล่นให้ดูเป็นตัวอย่างหรือสลับกันเล่นคนละรอบกับลูกก็สนุกดีน้าา :D
ระหว่างเล่นส่งเสียงเชียร์นางดังๆ เด็กจะตื่นเต้นและมีความมั่นใจในการเล่นมากขึ้นค่ะ เมื่อเล่นเสร็จอย่าลืมชวนกันเก็บของเล่นลงกล่องให้เรียบร้อยน้า
ขุ่นแม่เก็บไอเดียการเล่นมาจากที่นี่ค่ะ
ลองเข้าไปดูแล้วนำมาดัดแปลงวิธีการเล่นได้หลายแบบเลยค่ะ ---> Christmas tree balance activity
หรืออยากหาไอเดียไว้ทำโฮมสคูลกับตัวป่วนที่บ้านก็ลองดูที่นี่จ๊ะ ---> โฮมสคูลเองได้ ง่ายนิดเดียว by ครูบี
Merry Christmas!!!!
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันคริสมาสนี้จ้าาา
จุ๊ฟๆจากมาม๊าและเจ้าเด็กน้อย <3
Friday, December 23, 2016
Sunday, December 18, 2016
Let's go to the Zoo!!! | ตามเด็กน้อยมาเที่ยวซาฟารีเวิลด์กัน
ลมหนาวมาแล้วว ฟิ้วๆๆ อากาศดีๆแบบนี้แม้สมัยวัยรุ่นเราจะต้องไปขึ้นดอย
แต่วัยแม่อย่างเราแล้ววว.... จะมีอะไรเหมาะกว่าการไปเที่ยวสวนสัตว์จริงมั๊ยๆ :D
วันนี้เด็กน้อยจะพาเที่ยว ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) กันค่ะท่านผู้ชม
และนี่ถือเป็นครั้งแรกของการไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดของเด็กน้อย มาม๊า และป๋า วู้ววตื่นเต้นจริง !!!
มาดูข้อมูลกันซักเล็กน้อย ซาฟารีเวิลด์เป็นสวนสัตว์เปิดขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่ให้เราเข้าชมเป็น 2 ส่วน คือ
มาถึงปุ๊บซื้อบัตรก่อนนะจ๊ะตัวเทอ ซื้อตรงบริเวณช่องทางเข้าสวนสัตว์ได้เลย (ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ค่ะ บ้านนี้เด็กน้อยสูงยังไม่ถึง 100 cm เข้าชมฟรี เย่ๆ) จะได้รับ ตั๋วเข้าชม แผนที่ ตารางแสดงโชว์ และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของสวนสัตว์ซึ่งหายไปแล้ว - -" (โปรดมองข้ามความยับย่นของแผนที่ เพราะมันผ่านมือเจ้าเด็กจอมทำลายล้างทุกสิ่งอย่างบนโลกมา) บ้านนี้มาสายหน่อยเลยวางแผนคร่าวๆว่า
เอาละถึงเวลาเที่ยวจริงๆแล้ว เปิดประตูกระโดดขึ้นรถแล้วมุ่งไปโซนซาฟารีพาร์คกัน!!!!!!
(** หมายเหตุยาวๆ โซนนี้เป็นโซนสัตว์ป่า ดังนั้นห้ามลงจากรถ ห้ามเปิดหน้าต่างรถด้วยนะคะ มาม๊าเห็นหลายบ้านเปิดหน้าต่างออกมาถ่ายรูปกัน อยากให้คุณพ่อคุณแม่เคารพกฎกติกาของสถานที่กันด้วยเนอะ จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆของเรา และที่สำคัญเป็นเรื่องของความปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎของสวนสัตว์เค้าจะได้ไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องมาเสียใจกันทีหลังนะจ๊ะๆ)
เข้าประตูมาเจอกับเหล่าพี่ม้าลาย ลุงอูฐที่มายืนจ้องซะใกล้กระจกรถของหนูเลย นกกระจอกเทศ ฝูงยีราฟ กวาง กระทิง แรด เยอะแยะมากมายจำได้ไม่หมด และเหล่านกมาลาบู นกกาบบัวที่บินและเดินกันเต็มถนน ณ ที่นี้เราได้รับแจ้งว่า พี่สัตว์ทั้งหลายมีสิทธิพิเศษบนถนนนะคะ ค่อยๆขับและระมัดระวังเจ้าบ้านทั้งหลายด้วยน้า
หลังจากนั้นจะผ่านประตูไฟฟ้าเข้าไปในโซนของพี่เสือกันค่ะ เจอพี่เสือสองตัวนอนต้อนรับตรงทางเข้า และมีโชวฟีดดิ้งตอน 10 โมงตรงเป๊ะ เรามาสายไปหน่อยพี่เสือหม่ำเสร็จพอดีเลยอะ พอหม่ำเสร็จพี่เสือเดินหนีกันไปหมด เลยอดเห็นพี่เสือใกล้ๆเลย T^T
หลังจากโซนพี่เสือจะเข้าไปโซนน้องนกยูง ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูเท่าไหร่เลยอะ เราเลยดูแบบผ่านๆเร็วหน่อยนึงเพื่อเข้าไปมารีนปาร์คดูโชว์แรกกัน
เวลคัม ทู มารีนปาร์ค!!! รีบเดินจ้ำกันนิดเพื่อไปหาน้องสิงโตทะเลโชว์ ระยะทางของบ้านน้องเค้าไกลจากทางเข้าพอสมควรเลยนะ เดินดูกันแบบผ่านๆก่อนละกัน ค่อยมาเก็บตกทีหลัง
มาดู โชว์สิงโตทะเล (Sea Lion Show) กันค่า เป็นโชว์แรกของเราเนื่องจากมาไม่ทันดูอุรังอุตังโชว์จึงเก็บไว้ดูเป็นโชว์สุดท้ายเลยแล้วกัน บรรดาพี่ๆสิงโตทะเลโชว์เล่นห่วง เล่นบอล เดินบนถัง และอีกหลายอย่างจบโชว์เรียกรอยยิ้มและเสียงปรบมือได้เกรียวกราวเลยทีเดียว
ดูโชว์สิงโตทะเลแล้วรีบเดินไปหาพี่ช้างกันเลยนะคะ
มาค่ะๆพี่ๆซุปตาร์เค้ามารอต้อนรับเราแล้ว พบกับ พี่ช้างโชว์ (Elephant Show) <3
เหล่าพี่ช้างตัวโตโชว์ความสามารถกันมากมาย ทั้งเตะบอล ชู๊ทบาสเก็ตบอล วาดภาพ ไต่ลวด โชว์นวดอีกตังหาก โชว์นี้ดีงามมาม๊าและเด็กน้อยปรบมือให้รัวเลย แปะๆๆ :D
หลังโชว์สามารถลงไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับพี่ๆเค้าได้ พร้อมกับขายภาพวาดฝีมือพี่ช้างตอนโชว์ หรือจะขี่ช้างก็ได้ แต่ราคาไม่น่ารักเอาซะเลย มาม๊ากับเด็กน้อยเลยขอถ่ายรูปกับพี่เค้าไกลๆแบบนี้ก็ได้ แหะๆ
โชว์ถัดมาที่พลาดไม่ได้และว่ากันว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ คือ โลมาโชว์ (Dolphin Show)
ขอบอกว่านางน่ารักและว่ายน้ำเร็วปรู๊ดจนถ่ายภาพไม่ทัน มาม๊าเลยถ่ายคลิปแบบรัวๆ โชว์นี้เรียกเสียงฮือฮาดังกว่าทุกโชว์ จัดว่าเด็ดสมคำร่ำลือ เด็กน้อยอ้าปากค้างไปเล้ย
ขอคั่นรายการโดยการไปให้อาหาร ยีราฟ ที่เราเห็นไกลๆตอนขับรถดูในโซนซาฟารีพาร์คกันเถอะ!! ทางสวนสัตว์เค้าบอกว่าที่นี่มีฝูงยีราฟกว่า 200 ตัว ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในโลกเลยทีเดียว
เราสามารถซื้ออาหารไปป้อนพี่ๆเค้าใกล้ๆได้ในราคาถังละ 100 บาท ในถังมีมันเทศและกล้วยพร้อมไม้จิ้มมาให้ พวกพี่ๆยืนชูคอสลอนเลยเชียว ให้เท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ให้ช้ามีทำเสียงบ่นฮึ่มๆด้วยนะ ใจเย็นค่ะพี่ ^^"
มาถึงโชว์สุดท้ายของเรากันแล้ว อุรังอุตังโชว์ ซึ่งมีเวลาแสดงตรงกับโชว์ของน้องนก ทางแม่คิดว่าลูกน่าจะชอบอุรังอุตังมากกว่า เพราะแม่อยากดูอุรังอุตังมากกว่านก แหะๆ ^^"
ดูโชว์แล้วมาม๊าคิดว่าหากบ้านไหนมีเด็กเล็กขนาดเด็กน้อยของมาม๊า (2 ขวบนิดๆ) อุรังอุตังโชว์อาจจะไม่ค่อยเหมาะนะ เพราะมีมุกทะลึ่งตึงตังเยอะ ผู้ใหญ่ขำแต่เด็กน้อยยังไม่เข้าใจ บางช่วงที่อุรังอุตังทำท่าเตะพิธีกร เด็กน้อยพูดเบาๆว่า "อุรังอุตังแกล้ง ไม่ดีเลย" ^^"
แต่พอกลับมาถึงบ้าน นางกลับพูดถึงอุรังอุตังบ่อยที่สุด แถมทำท่าตีกลอง เต้น เล่นกีตาร์ ต่อยมวยแบบอุรังอุตังด้วย เจ้าอุรังอุตังจะน่ารักน่าหยิกขนาดไหน ขออัญเชิญไปดูคลิปเลยค่ะ ----> อุรังอุตังโชว์
กิจกรรมอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ การให้อาหารเจ้านกแก้วที่ Mini World โซนนี้สามารถให้อาการนกแก้วแสนเชื่องได้แบบใกล้ชิดๆ บินมาเกาะบนมือ บนไหล่ บนหัวกันเลยทีเดียว แต่เราไปเย็นมากแล้ว เจ้านกแก้วอิ่มจนพุงป่อง ขนาดยื่นอาหารเข้าไปใกล้จนถึงปาก นางยังเมินเลยอ่ะ >,<
โอย เดินจนเมื่อยเท้า หมดวันสวนสัตว์ได้เวลาปิดพอดี แต่ก็ยังดูไม่ครบเลยยยยย
ตามความเห็นของมาม๊าคิดว่ายากมากที่จะเก็บโชว์ให้ครบทั้งหมดและเดินอ้อยอิ่งดูสัตว์ทั้งหมดได้ในวันเดียว แต่คงไม่มาซ้ำรอบสองแล้วล่ะ เพราะราคาบัตรนั้นแอบแรงอยู่ไม่น้อยถ้าจะให้คุ้มค่าควรจะต้องดูโชว์ด้วย และคิดว่าการจัดโซนแสดงมันเดินไกลไปน้าาา ป้าเมื่อย ป้าเหนื่อย ป้าต้องเดินวนไปเวียนมา ป้าแก่แล้วสงสารป้าด้วย T^T
แต่การมาเที่ยวซาฟารีเวิลด์เป็นครั้งแรกของบ้านเราในวันนี้โดยรวมๆแล้วมีเสน่ห์ ถือว่าโอเคมากๆเลยนะจ๊ะ เด็กน้อยได้พบกับสัตว์ที่เคยเห็นแต่ในหนังสือเลยตื่นตาตื่นใจมากๆ จุดนี้ลูกแฮปปี้ แม่ก็แฮปปี้ค่ะ <3
จบรีวิวท่องเที่ยวเพียงเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหนูน้อยที่วางแผนจะไปเที่ยวซาฟารีเวิลด์กันน้าาา
เลิฟๆ จากมาม๊าและเด็กน้อย ^^/
แต่วัยแม่อย่างเราแล้ววว.... จะมีอะไรเหมาะกว่าการไปเที่ยวสวนสัตว์จริงมั๊ยๆ :D
วันนี้เด็กน้อยจะพาเที่ยว ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) กันค่ะท่านผู้ชม
และนี่ถือเป็นครั้งแรกของการไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดของเด็กน้อย มาม๊า และป๋า วู้ววตื่นเต้นจริง !!!
มาดูข้อมูลกันซักเล็กน้อย ซาฟารีเวิลด์เป็นสวนสัตว์เปิดขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่ให้เราเข้าชมเป็น 2 ส่วน คือ
- ซาฟารีปาร์ค (Safari Park) เป็นสวนสัตว์เปิดให้เราได้นั่งรถชมชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าสัตว์ป่าตามธรรมชาติ โดยรถส่วนตัวหรือรถบริการพร้อมผู้บรรยายของซาฟารีเวิลด์ก็ได้ เหล่าน้องนางสัตว์ป่าที่จะได้ชมในโซนนี้ เช่น ม้าลาย อูฐ กวาง ยีราฟ นก เสือ หมี ฯลฯ
ดูจากแผนที่ด้านล่างคือโซนสีเขียวๆรอบนอกนะจ๊ะ เราขับรถวนทางซ้ายดูน้องสัตว์กันหนึ่งรอบใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที แล้วนำรถมาจอดที่ลานจอดรถซึ่งอยู่ตรงมุมขวาล่างของแผนที่ จากนั้นก็เดินเข้าสู่โซนถัดไปได้เล้ย
- มารีนปาร์ค (Marine Park) ดูจากชื่อน่าจะเป็นสวนน้ำ แต่โซนนี้เป็นส่วนจัดแสดงโชว์ของทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำเลยนะ ^^" ในตารางแสดงโชว์ด้านล่างที่บ้านเราเล็งไว้ว่าต้องไปดู เช่น อุรังอุตังโชว์ สิงโตทะเลโชว์ ช้างโชว์ โลมาโชว์ และการแสดงโชว์ของนก รวมถึงส่วนที่ให้เราเดินเข้าไปชมน้องสัตว์ทั้งหลาย และมีโซนพิเศษให้เราเข้าไปให้อาหารสัตว์อย่างใกล้ชิดได้ เช่น โซนยีราฟและ Mini zone บ้านของเจ้านกแก้ว
ดูจากแผนที่ด้านล่างมารีนปาร์คคือโซนสีส้มๆเหลืองๆตรงกลางแผนที่นะจ๊ะ ถึงจุดนี้วางแผนคำนวณเวลากันดีๆ จะได้ไม่พลาดโชว์หลายๆโชว์เพราะโซนจัดแสดงแต่ละโซนอยู่ค่อนข้างไกลกันพอสมควร
มาถึงปุ๊บซื้อบัตรก่อนนะจ๊ะตัวเทอ ซื้อตรงบริเวณช่องทางเข้าสวนสัตว์ได้เลย (ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ค่ะ บ้านนี้เด็กน้อยสูงยังไม่ถึง 100 cm เข้าชมฟรี เย่ๆ) จะได้รับ ตั๋วเข้าชม แผนที่ ตารางแสดงโชว์ และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของสวนสัตว์ซึ่งหายไปแล้ว - -" (โปรดมองข้ามความยับย่นของแผนที่ เพราะมันผ่านมือเจ้าเด็กจอมทำลายล้างทุกสิ่งอย่างบนโลกมา) บ้านนี้มาสายหน่อยเลยวางแผนคร่าวๆว่า
- ช่วงเช้าขับรถดูโซนซาฟารีพาร์คก่อน
- 11.00 น. ดูโชว์สิงโตทะเล
- 11.40 น. ดูน้องช้างโชว์
- หลังจากนั้นพักทานข้าว ช่วงนี้รีบทำเวลากันหน่อยนะคะ เพราะต่อไปเราจะดูโลมาโชว์ ซึ่งประตูเปิดเวลา 13.00 น. รีบเข้าไปหน่อยจะได้เลือกที่นั่งดีๆ
- 13.45 น. ดูโลมาโชว์
- หลังจากนั้นจะเดินดูน้องสัตว์นิดๆหน่อยๆ แล้วพุ่งตัวไปให้อาหารยีราฟกัน
- 15.45 น. ดูอุรังอุตังโชว์
- เก็บตกดูน้องสัตว์ทั้งหลาย เข้าไปให้อาหารน้องนกใน Mini World
ซาฟารีพาร์ค (Safari Park)
เอาละถึงเวลาเที่ยวจริงๆแล้ว เปิดประตูกระโดดขึ้นรถแล้วมุ่งไปโซนซาฟารีพาร์คกัน!!!!!!
(** หมายเหตุยาวๆ โซนนี้เป็นโซนสัตว์ป่า ดังนั้นห้ามลงจากรถ ห้ามเปิดหน้าต่างรถด้วยนะคะ มาม๊าเห็นหลายบ้านเปิดหน้าต่างออกมาถ่ายรูปกัน อยากให้คุณพ่อคุณแม่เคารพกฎกติกาของสถานที่กันด้วยเนอะ จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆของเรา และที่สำคัญเป็นเรื่องของความปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎของสวนสัตว์เค้าจะได้ไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องมาเสียใจกันทีหลังนะจ๊ะๆ)
เข้าประตูมาเจอกับเหล่าพี่ม้าลาย ลุงอูฐที่มายืนจ้องซะใกล้กระจกรถของหนูเลย นกกระจอกเทศ ฝูงยีราฟ กวาง กระทิง แรด เยอะแยะมากมายจำได้ไม่หมด และเหล่านกมาลาบู นกกาบบัวที่บินและเดินกันเต็มถนน ณ ที่นี้เราได้รับแจ้งว่า พี่สัตว์ทั้งหลายมีสิทธิพิเศษบนถนนนะคะ ค่อยๆขับและระมัดระวังเจ้าบ้านทั้งหลายด้วยน้า
หลังจากนั้นจะผ่านประตูไฟฟ้าเข้าไปในโซนของพี่เสือกันค่ะ เจอพี่เสือสองตัวนอนต้อนรับตรงทางเข้า และมีโชวฟีดดิ้งตอน 10 โมงตรงเป๊ะ เรามาสายไปหน่อยพี่เสือหม่ำเสร็จพอดีเลยอะ พอหม่ำเสร็จพี่เสือเดินหนีกันไปหมด เลยอดเห็นพี่เสือใกล้ๆเลย T^T
หลังจากโซนพี่เสือจะเข้าไปโซนน้องนกยูง ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูเท่าไหร่เลยอะ เราเลยดูแบบผ่านๆเร็วหน่อยนึงเพื่อเข้าไปมารีนปาร์คดูโชว์แรกกัน
มารีนปาร์ค (Marine Park)
เวลคัม ทู มารีนปาร์ค!!! รีบเดินจ้ำกันนิดเพื่อไปหาน้องสิงโตทะเลโชว์ ระยะทางของบ้านน้องเค้าไกลจากทางเข้าพอสมควรเลยนะ เดินดูกันแบบผ่านๆก่อนละกัน ค่อยมาเก็บตกทีหลัง
มาดู โชว์สิงโตทะเล (Sea Lion Show) กันค่า เป็นโชว์แรกของเราเนื่องจากมาไม่ทันดูอุรังอุตังโชว์จึงเก็บไว้ดูเป็นโชว์สุดท้ายเลยแล้วกัน บรรดาพี่ๆสิงโตทะเลโชว์เล่นห่วง เล่นบอล เดินบนถัง และอีกหลายอย่างจบโชว์เรียกรอยยิ้มและเสียงปรบมือได้เกรียวกราวเลยทีเดียว
ดูโชว์สิงโตทะเลแล้วรีบเดินไปหาพี่ช้างกันเลยนะคะ
มาค่ะๆพี่ๆซุปตาร์เค้ามารอต้อนรับเราแล้ว พบกับ พี่ช้างโชว์ (Elephant Show) <3
เหล่าพี่ช้างตัวโตโชว์ความสามารถกันมากมาย ทั้งเตะบอล ชู๊ทบาสเก็ตบอล วาดภาพ ไต่ลวด โชว์นวดอีกตังหาก โชว์นี้ดีงามมาม๊าและเด็กน้อยปรบมือให้รัวเลย แปะๆๆ :D
หลังโชว์สามารถลงไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับพี่ๆเค้าได้ พร้อมกับขายภาพวาดฝีมือพี่ช้างตอนโชว์ หรือจะขี่ช้างก็ได้ แต่ราคาไม่น่ารักเอาซะเลย มาม๊ากับเด็กน้อยเลยขอถ่ายรูปกับพี่เค้าไกลๆแบบนี้ก็ได้ แหะๆ
โชว์ถัดมาที่พลาดไม่ได้และว่ากันว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ คือ โลมาโชว์ (Dolphin Show)
ขอบอกว่านางน่ารักและว่ายน้ำเร็วปรู๊ดจนถ่ายภาพไม่ทัน มาม๊าเลยถ่ายคลิปแบบรัวๆ โชว์นี้เรียกเสียงฮือฮาดังกว่าทุกโชว์ จัดว่าเด็ดสมคำร่ำลือ เด็กน้อยอ้าปากค้างไปเล้ย
ขอคั่นรายการโดยการไปให้อาหาร ยีราฟ ที่เราเห็นไกลๆตอนขับรถดูในโซนซาฟารีพาร์คกันเถอะ!! ทางสวนสัตว์เค้าบอกว่าที่นี่มีฝูงยีราฟกว่า 200 ตัว ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในโลกเลยทีเดียว
เราสามารถซื้ออาหารไปป้อนพี่ๆเค้าใกล้ๆได้ในราคาถังละ 100 บาท ในถังมีมันเทศและกล้วยพร้อมไม้จิ้มมาให้ พวกพี่ๆยืนชูคอสลอนเลยเชียว ให้เท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ให้ช้ามีทำเสียงบ่นฮึ่มๆด้วยนะ ใจเย็นค่ะพี่ ^^"
มาถึงโชว์สุดท้ายของเรากันแล้ว อุรังอุตังโชว์ ซึ่งมีเวลาแสดงตรงกับโชว์ของน้องนก ทางแม่คิดว่าลูกน่าจะชอบอุรังอุตังมากกว่า เพราะแม่อยากดูอุรังอุตังมากกว่านก แหะๆ ^^"
ดูโชว์แล้วมาม๊าคิดว่าหากบ้านไหนมีเด็กเล็กขนาดเด็กน้อยของมาม๊า (2 ขวบนิดๆ) อุรังอุตังโชว์อาจจะไม่ค่อยเหมาะนะ เพราะมีมุกทะลึ่งตึงตังเยอะ ผู้ใหญ่ขำแต่เด็กน้อยยังไม่เข้าใจ บางช่วงที่อุรังอุตังทำท่าเตะพิธีกร เด็กน้อยพูดเบาๆว่า "อุรังอุตังแกล้ง ไม่ดีเลย" ^^"
แต่พอกลับมาถึงบ้าน นางกลับพูดถึงอุรังอุตังบ่อยที่สุด แถมทำท่าตีกลอง เต้น เล่นกีตาร์ ต่อยมวยแบบอุรังอุตังด้วย เจ้าอุรังอุตังจะน่ารักน่าหยิกขนาดไหน ขออัญเชิญไปดูคลิปเลยค่ะ ----> อุรังอุตังโชว์
กิจกรรมอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ การให้อาหารเจ้านกแก้วที่ Mini World โซนนี้สามารถให้อาการนกแก้วแสนเชื่องได้แบบใกล้ชิดๆ บินมาเกาะบนมือ บนไหล่ บนหัวกันเลยทีเดียว แต่เราไปเย็นมากแล้ว เจ้านกแก้วอิ่มจนพุงป่อง ขนาดยื่นอาหารเข้าไปใกล้จนถึงปาก นางยังเมินเลยอ่ะ >,<
โอย เดินจนเมื่อยเท้า หมดวันสวนสัตว์ได้เวลาปิดพอดี แต่ก็ยังดูไม่ครบเลยยยยย
ตามความเห็นของมาม๊าคิดว่ายากมากที่จะเก็บโชว์ให้ครบทั้งหมดและเดินอ้อยอิ่งดูสัตว์ทั้งหมดได้ในวันเดียว แต่คงไม่มาซ้ำรอบสองแล้วล่ะ เพราะราคาบัตรนั้นแอบแรงอยู่ไม่น้อยถ้าจะให้คุ้มค่าควรจะต้องดูโชว์ด้วย และคิดว่าการจัดโซนแสดงมันเดินไกลไปน้าาา ป้าเมื่อย ป้าเหนื่อย ป้าต้องเดินวนไปเวียนมา ป้าแก่แล้วสงสารป้าด้วย T^T
แต่การมาเที่ยวซาฟารีเวิลด์เป็นครั้งแรกของบ้านเราในวันนี้โดยรวมๆแล้วมีเสน่ห์ ถือว่าโอเคมากๆเลยนะจ๊ะ เด็กน้อยได้พบกับสัตว์ที่เคยเห็นแต่ในหนังสือเลยตื่นตาตื่นใจมากๆ จุดนี้ลูกแฮปปี้ แม่ก็แฮปปี้ค่ะ <3
จบรีวิวท่องเที่ยวเพียงเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหนูน้อยที่วางแผนจะไปเที่ยวซาฟารีเวิลด์กันน้าาา
เลิฟๆ จากมาม๊าและเด็กน้อย ^^/
Tuesday, December 13, 2016
Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm Review | ตัวช่วยสำหรับเด็กผิวแห้งช่วงหนาวนี้
ลมหนาวมาแล้วว อากาศเย็นๆแบบนี้มันดีต่อใจแม่จริงๆ <3
แต่จะมาปวดใจเอาตอนเห็นผิวแห้งเป็นผดแดงๆเพราะอากาศของเจ้าเด็กนี่ละ T^T
แต่เราไม่กลัว เพราะเรามีตัวช่วยส่งตรงมาจาก Enfant เย่ !!!
Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm คือความดีงามในยามอากาศเริ่มหนาวแบบนี้
หากบ้านไหนคุ้นเคยกับการใช้ ปิโตรเลี่ยมเจล ไม่ว่าจะใช้ทาป้องกันผื่นผ้าอ้อม, ทาเมื่อเกิดผื่นแดงจากการใส่ผ้าอ้อม หรือทาบริเวณผิวที่ได้รับการเสียดสีบ่อยๆทำให้เกิดความแห้งกร้านจนทำให้เกิดผื่นแดงและมักมีอาการคัน เช่น บริเวณข้อศอก หัวเข่า แขน ขา ต้องขอบอกว่าบาล์มเพื่อการบำรุงผิวจากสารสกัดธรรมชาติตัวนี้เป็นคำตอบที่ขุ่นแม่รอคอยค่ะ!
Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm เป็นบาล์มสูตรอ่อนโยน สามารถใช้ได้แม้ผิวที่บอบบางของเด็กเล็ก ด้วยคุณค่าจากสารสกัดออแกนิกส์นานาชนิดที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านอย่าง Shea Butter, Argan Oil และ Olive Oil ทำให้มาม๊ามั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับผิวแพ้ง่ายของเจ้าเด็กน้อยอย่างแน่นอน
และยังมีสารสกัดธรรมชาติอีกหลายชนิด ได้แก่ Rice Barn Oil, Safflower Seed Oil และ Aloe Vera Extract บำรุงให้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส สารสกัดจาก Bisabolol และ Moringa Seed Oil ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ทำให้ผิวหนูน้อยของคุณแม่ชุ่มชื้นยาวนาน
มาค่ะ เปิดกระปุกสัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆจาก Shea butter กันก่อน...อื้อหืมม หอมน่าใช้จริงๆ >.<
จากนั้นมาดูเนื้อครีมกัน ลองปาดเบาๆที่แขนดูแล้วนางมีความเข้มข้นมากอยู่นะ ดังนั้นแนะนำให้ใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย เฉพาะจุดที่มีความแห้งกร้าน ค่อยๆถูวนเบาๆจนเนื้อครีมซึบซาบเข้าสู่ผิวนะจ๊ะ
มาม๊าใช้ Shea Butter Nurturing Balm นวดเบาๆที่แขน ขา รวมถึงข้อศอกและเข่าของเด็กน้อย บริเวณจุดที่แห้งและเริ่มมีรอยแดงๆจากการเกา หลังใช้ผิวของนางดูชุ่มชื้นเนียนนุ่ม หอมน่ากัดเลยเชียวแหละ ^^
ไม่เพียงแค่การบำรุงผิวของลูกเท่านั้น ผิวแม่ก็ต้องได้รับการบำรุงเช่นเดียวกัน มาม๊าแตะเนื้อครีมเพียงนิดลูบไล้บริเวณข้อศอก เข่า บริเวณขาเรื่อยไปถึงตาตุ่ม ซึ่งมักจะเป็นบริเวณที่ผิวแห้งกว่าส่วนอื่นๆ ถูวนไปจนครีมซึมเข้าสู่ผิว ก็สัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่มชุ่มชื้นเช่นเดียวกัน <3
อากาศเริ่มหนาวและแห้งหน่อยๆแบบนี้ คุณแม่ๆต้องเอาใจใส่ผิวของลูกน้อยกันเป็นพิเศษละเนอะ อย่าลืมมองหาตัวช่วยในการดูแลผิวดีๆอย่าง Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm ดูนะคะ
>> Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm ราคาปกติ 275 บาท
>> ช้อปออนไลน์ ลดเหลือเพียง 220 บาท สั่งซื้อออนไลน์ ส่งฟรีทั่วประเทศ ที่นี่
>> ไม่อยากพลาดข่าวสารและโปรโมชั่นเด็ดๆสำหรับขุ่นแม่และลูกน้อย ก็ไปกดไลค์เพจของอองฟองต์กันได้เล้ย Enfant Mom Club :3
แต่จะมาปวดใจเอาตอนเห็นผิวแห้งเป็นผดแดงๆเพราะอากาศของเจ้าเด็กนี่ละ T^T
แต่เราไม่กลัว เพราะเรามีตัวช่วยส่งตรงมาจาก Enfant เย่ !!!
Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm คือความดีงามในยามอากาศเริ่มหนาวแบบนี้
หากบ้านไหนคุ้นเคยกับการใช้ ปิโตรเลี่ยมเจล ไม่ว่าจะใช้ทาป้องกันผื่นผ้าอ้อม, ทาเมื่อเกิดผื่นแดงจากการใส่ผ้าอ้อม หรือทาบริเวณผิวที่ได้รับการเสียดสีบ่อยๆทำให้เกิดความแห้งกร้านจนทำให้เกิดผื่นแดงและมักมีอาการคัน เช่น บริเวณข้อศอก หัวเข่า แขน ขา ต้องขอบอกว่าบาล์มเพื่อการบำรุงผิวจากสารสกัดธรรมชาติตัวนี้เป็นคำตอบที่ขุ่นแม่รอคอยค่ะ!
Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm เป็นบาล์มสูตรอ่อนโยน สามารถใช้ได้แม้ผิวที่บอบบางของเด็กเล็ก ด้วยคุณค่าจากสารสกัดออแกนิกส์นานาชนิดที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านอย่าง Shea Butter, Argan Oil และ Olive Oil ทำให้มาม๊ามั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับผิวแพ้ง่ายของเจ้าเด็กน้อยอย่างแน่นอน
และยังมีสารสกัดธรรมชาติอีกหลายชนิด ได้แก่ Rice Barn Oil, Safflower Seed Oil และ Aloe Vera Extract บำรุงให้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส สารสกัดจาก Bisabolol และ Moringa Seed Oil ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ทำให้ผิวหนูน้อยของคุณแม่ชุ่มชื้นยาวนาน
มาค่ะ เปิดกระปุกสัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆจาก Shea butter กันก่อน...อื้อหืมม หอมน่าใช้จริงๆ >.<
จากนั้นมาดูเนื้อครีมกัน ลองปาดเบาๆที่แขนดูแล้วนางมีความเข้มข้นมากอยู่นะ ดังนั้นแนะนำให้ใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย เฉพาะจุดที่มีความแห้งกร้าน ค่อยๆถูวนเบาๆจนเนื้อครีมซึบซาบเข้าสู่ผิวนะจ๊ะ
มาม๊าใช้ Shea Butter Nurturing Balm นวดเบาๆที่แขน ขา รวมถึงข้อศอกและเข่าของเด็กน้อย บริเวณจุดที่แห้งและเริ่มมีรอยแดงๆจากการเกา หลังใช้ผิวของนางดูชุ่มชื้นเนียนนุ่ม หอมน่ากัดเลยเชียวแหละ ^^
ไม่เพียงแค่การบำรุงผิวของลูกเท่านั้น ผิวแม่ก็ต้องได้รับการบำรุงเช่นเดียวกัน มาม๊าแตะเนื้อครีมเพียงนิดลูบไล้บริเวณข้อศอก เข่า บริเวณขาเรื่อยไปถึงตาตุ่ม ซึ่งมักจะเป็นบริเวณที่ผิวแห้งกว่าส่วนอื่นๆ ถูวนไปจนครีมซึมเข้าสู่ผิว ก็สัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่มชุ่มชื้นเช่นเดียวกัน <3
อากาศเริ่มหนาวและแห้งหน่อยๆแบบนี้ คุณแม่ๆต้องเอาใจใส่ผิวของลูกน้อยกันเป็นพิเศษละเนอะ อย่าลืมมองหาตัวช่วยในการดูแลผิวดีๆอย่าง Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm ดูนะคะ
>> Enfant Organic Plus Shea Butter Nurturing Balm ราคาปกติ 275 บาท
>> ช้อปออนไลน์ ลดเหลือเพียง 220 บาท สั่งซื้อออนไลน์ ส่งฟรีทั่วประเทศ ที่นี่
>> ไม่อยากพลาดข่าวสารและโปรโมชั่นเด็ดๆสำหรับขุ่นแม่และลูกน้อย ก็ไปกดไลค์เพจของอองฟองต์กันได้เล้ย Enfant Mom Club :3
Monday, December 12, 2016
ปั้นแป้งโดว์กับ A-Z Do-a-dot Worksheets
Play based learning at home กลับมาแล้วจ้าา \^^/
มาม๊าเชื่อว่าของเล่นประจำบ้านที่หลายบ้านต้องมีคงหนีไม่พ้น Dough หรือแป้งโดว์หลากสีแน่ๆเลย นอกจากจะนำมาปั้นเป็นรูปต่างๆอย่างสนุกสนานแล้ว วันนี้ขอนำเสนอวิธีการเล่นอีกแบบเพื่อให้เจ้าหนูน้อยได้สนุกในการเล่นโดว์พร้อมๆกับการเรียนรู้ตัวอักษรภาษาอังกฤษไปด้วยกัน ตามมาดูกันเล้ย :D
อุปกรณ์
1. ตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Z แบบ Dot | ตามไป Print กันได้ที่นี่ ----> A-Z Do-a-dot Worksheets
2. แป้งโดว์สีที่ชอบ มาม๊าใช้ของ Play-Doh
วิธีการเล่น
นำกระดาษที่ Print ตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบ dot มาวางเตรียมไว้ มาม๊าเริ่มจากตัวอักษร A จากนั้นให้เด็กน้อยปั้นแป้งโดว์เป็นก้อนๆ แล้วนำไปวางบนกระดาษตามจุดที่เรียงเป็นตัวอักษร ระหว่างเล่นคุณพ่อคุณแม่ก็อธิบายไปด้วยว่านี่คือตัว A B C บ้านนี้ใช้วิธีร้องเพลงที่เด็กน้อยชอบ เพลงนี้ค่ะ ---> JOLLY SONGS A-Z(from the big book JOLLY SONGS)
การเล่นแบบนี้นอกจากจะได้เรียนตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบสนุกๆแล้ว ยังช่วยฝึกสมาธิ การฝึกสายตา รวมถึงการฝึกกล้ามเนื้อนิ้วมือด้วยค่ะ
สำหรับเด็กวัย 2 ขวบ เล่นติดได้ครั้งละตัวอักษรเดียวก็เริ่มเบื่อซะแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้ติดวันละตัวหรืออาทิตย์ละตัวก็ได้นะคะ เซ็ทให้เรียน Letter of the week แล้วไปเล่นอย่างอื่นก่อนแล้วค่อยเวียนกลับมาเล่นกันต่อ :)
มาดูไอเดียการเล่นกับ A-Z Dot Worksheets กันค่ะ
- ใช้สี Do-A-Dot Markers มาระบายสีในวงกลมตัวอักษร (ถ้าหาเจ้าสีแบบนี้ไม่ได้ มาม๊าดัดแปลงใช้สำลีพันปลายดินสอใช้ยางรัดให้แน่น แล้วจุ่มสีน้ำให้ระบายสีเอาค่ะ)
- เล่นติด Stickers หรือ Pom Pom Magnets ก็สนุกไม่เบานะคะ
เจ้าเด็กน้อยปั้นแป้งติดตัวอักษรเริ่มเบื่อ ก็ไปหยิบรูปสัตว์ที่มาม๊าวาดใส่กระดาษลังแล้วตัดเป็นสัตว์ชนิดต่างๆมาเล่นต่อ นางเริ่มมีวิธีการเล่นของนางเอง เอาโดว์ไปติดตรงตา ตรงหู ตรงปากของตัวสัตว์ ในระหว่างนี้มาม๊าก็สามารถสอนเรื่องสัตว์ชนิดต่างๆ และอวัยวะของสัตว์แต่ละชนิดไปได้ด้วย ... หลอกเด็กไปได้อีกพักนึง เย่ \^^/
เล่นแล้วขอแนะนำให้รีบแกะโดว์ออกก่อนน้า ไม่งั้นมันจะแข็งติดกระดาษเอามาเล่นไม่ได้อีก แง๊ T^T
วันนี้ไปก่อนจ้า วันหลังจะเอาของเล่นง่ายๆมาแชร์อีกนะจ๊ะ จุ๊ฟๆ ^3^
มาม๊าเชื่อว่าของเล่นประจำบ้านที่หลายบ้านต้องมีคงหนีไม่พ้น Dough หรือแป้งโดว์หลากสีแน่ๆเลย นอกจากจะนำมาปั้นเป็นรูปต่างๆอย่างสนุกสนานแล้ว วันนี้ขอนำเสนอวิธีการเล่นอีกแบบเพื่อให้เจ้าหนูน้อยได้สนุกในการเล่นโดว์พร้อมๆกับการเรียนรู้ตัวอักษรภาษาอังกฤษไปด้วยกัน ตามมาดูกันเล้ย :D
อุปกรณ์
1. ตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Z แบบ Dot | ตามไป Print กันได้ที่นี่ ----> A-Z Do-a-dot Worksheets
2. แป้งโดว์สีที่ชอบ มาม๊าใช้ของ Play-Doh
วิธีการเล่น
นำกระดาษที่ Print ตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบ dot มาวางเตรียมไว้ มาม๊าเริ่มจากตัวอักษร A จากนั้นให้เด็กน้อยปั้นแป้งโดว์เป็นก้อนๆ แล้วนำไปวางบนกระดาษตามจุดที่เรียงเป็นตัวอักษร ระหว่างเล่นคุณพ่อคุณแม่ก็อธิบายไปด้วยว่านี่คือตัว A B C บ้านนี้ใช้วิธีร้องเพลงที่เด็กน้อยชอบ เพลงนี้ค่ะ ---> JOLLY SONGS A-Z(from the big book JOLLY SONGS)
การเล่นแบบนี้นอกจากจะได้เรียนตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบสนุกๆแล้ว ยังช่วยฝึกสมาธิ การฝึกสายตา รวมถึงการฝึกกล้ามเนื้อนิ้วมือด้วยค่ะ
สำหรับเด็กวัย 2 ขวบ เล่นติดได้ครั้งละตัวอักษรเดียวก็เริ่มเบื่อซะแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้ติดวันละตัวหรืออาทิตย์ละตัวก็ได้นะคะ เซ็ทให้เรียน Letter of the week แล้วไปเล่นอย่างอื่นก่อนแล้วค่อยเวียนกลับมาเล่นกันต่อ :)
มาดูไอเดียการเล่นกับ A-Z Dot Worksheets กันค่ะ
- ใช้สี Do-A-Dot Markers มาระบายสีในวงกลมตัวอักษร (ถ้าหาเจ้าสีแบบนี้ไม่ได้ มาม๊าดัดแปลงใช้สำลีพันปลายดินสอใช้ยางรัดให้แน่น แล้วจุ่มสีน้ำให้ระบายสีเอาค่ะ)
- เล่นติด Stickers หรือ Pom Pom Magnets ก็สนุกไม่เบานะคะ
เจ้าเด็กน้อยปั้นแป้งติดตัวอักษรเริ่มเบื่อ ก็ไปหยิบรูปสัตว์ที่มาม๊าวาดใส่กระดาษลังแล้วตัดเป็นสัตว์ชนิดต่างๆมาเล่นต่อ นางเริ่มมีวิธีการเล่นของนางเอง เอาโดว์ไปติดตรงตา ตรงหู ตรงปากของตัวสัตว์ ในระหว่างนี้มาม๊าก็สามารถสอนเรื่องสัตว์ชนิดต่างๆ และอวัยวะของสัตว์แต่ละชนิดไปได้ด้วย ... หลอกเด็กไปได้อีกพักนึง เย่ \^^/
เล่นแล้วขอแนะนำให้รีบแกะโดว์ออกก่อนน้า ไม่งั้นมันจะแข็งติดกระดาษเอามาเล่นไม่ได้อีก แง๊ T^T
วันนี้ไปก่อนจ้า วันหลังจะเอาของเล่นง่ายๆมาแชร์อีกนะจ๊ะ จุ๊ฟๆ ^3^
Sunday, December 11, 2016
Enfant Organic Plus Complete Care Moisture Cream Review | เด็กผิวแพ้ง่าย ใช้ครีมอะไรดี๊!?
ยังจำได้ไหมมมมมม จำได้รึเปล่าาาา.. โพสก่อนหน้านี้เคยบอกเล่ากันไว้ว่าเด็กน้อยบ้านนี้มีผิวที่ค่อนข้างแพ้ง่ายจึงมักจะมีผดผื่นคันให้มาม๊าได้ปวดหัวใจอยู่เป็นประจำ ดังนั้นมาม๊าจึงต้องพิถีพิถันในการเลือกใช้ครีมหรือโลชั่นที่เหมาะกับผิวบอบบางของนางเป็นพิเศษ
มาดูที่เนื้อครีมกัน..แน่นอนว่าเป็นครีมที่ไม่มีกลิ่นน้ำหอมใดๆ เมื่อทาลงไปบนผิวแล้วมาม๊ารู้สึกได้เลยว่าเจ้าครีมตัวนี้มีความเข้มข้นที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี แต่ว่าไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะผิวเลยนะ เหมาะสำหรับทาบำรุงผิวเด็กน้อยในช่วงที่อากาศกำลังเริ่มหนาวแบบนี้มากๆ ผิวเจ้าเด็กน้อยของมาม๊าเนียนนุ่มและดูชุ่มชื้นขึ้นทันทีเลยหลังการใช้
ความดีงามยังไม่หมดเท่านี้ เพราะเค้ามีส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติถึง 9 ชนิด (nona-herb) ได้แก่ Aloe Vera, Rose Water, Safflower Seed Oil, Argan Oil, Bitter Green, Olive Oil, Bisabolol, Chamomile Water และ Saxifrage จะช่วยปลอบประโลมผิวให้รู้สึกสบายผ่อนคลาย บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นนุ่มนวล สุขภาพดี ทั้งมาม๊าและเด็กน้อยเลิฟเจ้า Complete Care Moisture Cream นี้มากๆค่ะ <3
แล้วมาพบกับผลิตภัณฑ์ดีๆของ Enfant ได้ในครั้งต่อไปนะจ๊ะ
ด้วยรักจากใจมาม๊าและเด็กน้อย จุ๊ฟๆ <3
สิ่งแรกที่มาม๊าพิจารณาในการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับลูกคือ ผลิตภัณฑ์นั้นๆจะต้องอ่อนโยนไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เช่น น้ำหอม พาราเบน หรือแอลกอฮอล์ โดยผลิตภัณฑ์นั้นต้องผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง (Dermatologically tested) แล้วว่าปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติก็จะทำให้ขุ่นแม่ๆอย่างเรามั่นใจในความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้นค่ะ ^3^
โชคดีที่ Enfant ส่งผลิตภัณฑ์ Enfant Organic Plus Complete Care Moisture Cream ครีมสูตรอ่อนโยนสำหรับปกป้องผิวบอบบางและผิวแพ้ง่าย มาให้เจ้าเด็กลองใช้ <3
ต้องขอบอกว่า Enfant Organic Plus Complete Care Moisture Cream ตัวนี้เหมาะสำหรับเด็กผิวแพ้ง่ายจริงๆ เนื่องจากปราศจากส่วนผสม 6 ชนิดที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง (Free of harsh ingredients) ต่อผิวที่บอบบางโดยเฉพาะผิวของเด็กเล็ก นั่นคือ Paraben free, Alcohol free, Fragrance free, Dye free, Phthalate free และ Silicone free
มาม๊าคิดว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหลายๆตัวที่กล่าวถึงอยู่แล้ว แต่อาจจะสงสัยว่า Phthalate free ตัวนี้คืออะไร? มาดูกัน
Phthalates เป็นสารเคมีที่ใช้เพิ่มความอ่อน (Softener) โดยมากจะปนเปื้อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจาก PVC รวมถึงของเล่นเด็กเล็กที่ทำด้วย PVC เช่น ห่วงยางกัดสำหรับเด็กอ่อน (Teething Ring), Dummies, Rattles ฯลฯ โดยสารดังกล่าวจะเข้าไปสะสมในร่างกายและอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
ข้อมูลจาก : บทความ สารพิษอันตราย ใกล้ตัวลูกคุณมากกว่าที่คุณคิด
มาดูที่เนื้อครีมกัน..แน่นอนว่าเป็นครีมที่ไม่มีกลิ่นน้ำหอมใดๆ เมื่อทาลงไปบนผิวแล้วมาม๊ารู้สึกได้เลยว่าเจ้าครีมตัวนี้มีความเข้มข้นที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี แต่ว่าไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะผิวเลยนะ เหมาะสำหรับทาบำรุงผิวเด็กน้อยในช่วงที่อากาศกำลังเริ่มหนาวแบบนี้มากๆ ผิวเจ้าเด็กน้อยของมาม๊าเนียนนุ่มและดูชุ่มชื้นขึ้นทันทีเลยหลังการใช้
ความดีงามยังไม่หมดเท่านี้ เพราะเค้ามีส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติถึง 9 ชนิด (nona-herb) ได้แก่ Aloe Vera, Rose Water, Safflower Seed Oil, Argan Oil, Bitter Green, Olive Oil, Bisabolol, Chamomile Water และ Saxifrage จะช่วยปลอบประโลมผิวให้รู้สึกสบายผ่อนคลาย บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นนุ่มนวล สุขภาพดี ทั้งมาม๊าและเด็กน้อยเลิฟเจ้า Complete Care Moisture Cream นี้มากๆค่ะ <3
สำหรับหนูน้อยคนไหนที่สนใจเจ้า Complete Care Moisture Cream ก็สามารถหามาใช้กันได้เลย พุ่งตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าบริเวณแผนกของใช้สำหรับเด็กค่ะ
>> Enfant Organic Plus Complete Care Moisture Cream ราคาปกติ 245 บาท
>> ช้อปออนไลน์ ลด 20% เพียง 220 บาท สั่งซื้อออนไลน์ ส่งฟรีทั่วประเทศ ที่นี่
>> ไม่อยากพลาดข่าวสารและโปรโมชั่นเด็ดๆสำหรับขุ่นแม่และลูกน้อย ก็ไปกดไลค์เพจของอองฟองต์กันได้เล้ย Enfant Mom Club :3
แล้วมาพบกับผลิตภัณฑ์ดีๆของ Enfant ได้ในครั้งต่อไปนะจ๊ะ
ด้วยรักจากใจมาม๊าและเด็กน้อย จุ๊ฟๆ <3
Thursday, December 8, 2016
Pregnancy photo ideas | ถ่ายภาพกับเบบี๋ตอนอยู่ในพุงป่องๆ
ยู้ฮู!!!! โพสนี้ขอมอบแก่ว่าที่ขุ่นพ่อขุ่นแม่ทุกท่านค่า... วันนี้มาม๊ามาแชร์ไอเดียภาพถ่ายของมาม๊าและเจ้าเด็กน้อย ตั้งแต่มาม๊ารู้ว่ามีนางดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในท้องจวบจนถึงตอนนี้ที่แทบจะอุ้มนางไม่ไหวซะแล้ว <3
เพราะการถ่ายภาพก็เหมือนการรหยุดเวลาไว้ในรูป และช่วงเวลาตลอดเกือบ 9 เดือนที่เราจะมีชีวิตน้อยๆอยู่ในพุงป่องๆก็คงเป็นช่วงเวลาแสนวิเศษและน่าตื่นเต้นสำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่อยู่ไม่น้อย ดังนั้นอย่าพลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้ และหากคุณพ่อคุณแม่อยากจะถ่ายภาพกับเจ้าตัวน้อยเก็บไว้ดูแล้วละก็.... อย่าได้รอช้า เพราะเมื่อย้อนกลับมาดูภาพนี้ "มันดีต่อใจ" จริงๆนะจ๊ะ
ขุ่นแม่คนไหนอยากถ่ายภาพแบบนี้ มาม๊าแนะนำว่ามีสิ่งที่ต้องเตรียมนั่นคือ
The timeline short
คุณป๋าถ่ายรูปพัฒนาการพุงน้อยๆของขุ่นแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งท้องจนกระทั่งคลอด และเอารูปทั้งหมดมาเรียงกันเป็น Timeline short ว๊าวว... เมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กของเราค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มันช่างน่าชื่นใจจริงๆน้าาาา <3ขุ่นแม่คนไหนอยากถ่ายภาพแบบนี้ มาม๊าแนะนำว่ามีสิ่งที่ต้องเตรียมนั่นคือ
- สถานที่ มาม๊าเลือกถ่ายรูปตรงมุมใดมุมหนึ่งของบ้านที่ดูเรียบๆ ที่คิดว่าเราจะไม่เปลี่ยนแปลงมันบ่อยๆ เช่น เลือก background เป็นผนังสีขาวเรียบๆ เพราะคิดเอาว่าเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าจะมีเหตุจำเป็น เช่น ปรับปรุงต่อเติมหรือจะย้ายบ้าน เราก็ยังคงหาผนังขาวๆแบบนี้ได้ไม่ยากนัก ทำให้รูปมีความต่อเนื่องไม่ขาดตอน
- เสื้อผ้าหน้าผม เลือกเสื้อผ้าแบบเรียบๆ ทรงผม makeup แบบเรียบง่าย จะได้ดูกลมกลืนกันไปตลอด
- กล้องถ่ายรูปและขาตั้งกล้อง หรือจะเป็นมือถือก็ได้นะ
Status update
อีกหนึ่งไอเดียสำหรับการนับวันรอเจ้าตัวเล็ก ใกล้จะได้เห็นหน้าเบบี๋แล้ว มาอัพเดทสเตตัสของพุงมามี๊กันหน่อย ฮึบๆ รอ loading หน่อยน้าาา :3Mommy alone
ช่วงเวลาตั้งท้องเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดช่วงเวลาหนึ่งจริงไหมคะ ขุ่นพ่อขุ่นแม่อย่าลืมเก็บภาพความอบอุ่นสวยงามแบบนี้เอาไว้ แล้วมาแบ่งให้มาม๊าดูบ้างนะจ๊ะ <3 <3
Subscribe to:
Posts (Atom)