Tuesday, August 16, 2016

Tale of Tales | หนังสือสำหรับเด็กจากงาน Big Bad Wolf Books

อาทิตย์ที่ผ่านมาบ้านเราได้พาหมาป่าตัวน้อยไปขย้ำหนังสือกันในงาน Big Bad Wolf Books ที่เมืองทองธานีมาเป็นที่เรียบร้อย ใครกำลังมองหาหนังสือภาษาอังกฤษดีๆสำหรับเด็กในราคาจับต้องได้ อยากแนะนำให้ลองไปงานนี้ดูนะคะ


Big Bad Wolf Books คืออะไร ตามมาดูได้เลยที่นี่ >> Big Bad Wolf | Book Sale Bangkok ภายในงานมีหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับนักอ่านหลากหลายกลุ่มให้เลือก ลดราคาถึง 60-80% เห็นแล้วกระเป๋าเงินสั่นกันเลย :3

สำหรับบ้านที่มีเด็กน้อยบ้านนี้จมอยู่ในโซนหนังสือเด็กแน่นอน (แต่ป๋ายังแอบไปสอยหนังสือของป๋ามา 1 เล่ม ทายซิเล่มไหน :D) แค่เฉพาะโซนหนังสือสำหรับเด็ก หากจะเดินส่องให้ทั่วก็ใช้เวลาราว 4-5 ชั่วโมงเข้าไปแล้ว กลับถึงบ้านนอนสลบหมดสภาพ ยกเว้นตัวป่วนที่แอบงีบชาร์ตแบตตอนป๋ากับมาม๊าตะลุยเดินหาหนังสือ

ได้หนังสืออะไรมาบ้างจาก Big Bad Wolf !!!


ตามมาดูหนังสือน่าอ่านที่มาม๊าสอยมาได้กันดีกว่า เก็บไว้เป็นไอเดียสำหรับใครที่อยากจะไปงานกัน เพราะหนังสือช่างมีมากมายเหลือเกิน (ผู้จัดงานบอกว่ามีหนังสือกว่า 2 ล้านเล่มเลยเชียว O_o) หรือจะไปดูรายชื่อหนังสือเตรียมความพร้อมให้คุ้นตากันก่อนได้เลย >> รายชื่อหนังสือในงาน

เตรียมพร้อมแล้วก็เริ่มกันที่เล่มแรกเลย :D

  •  Dress-up Day! หนังสือภาพ pop up น่ารักๆ | ราคา 140 บาท
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป ว่าด้วยเรื่องการแต่งกายของน้องหมา Woof  เด็กน้อยจะได้สนุกกับการเลือกชุดมาใส่ให้เจ้า Woof ในแต่ละโอกาสต่างๆ เช่น ไปทะเล ไปออกกำลังกาย ไปงานปาร์ตี้ หรือชุดนอน โดยชุดทั้งหมดจะอยู่ในท้ายรถหน้าหลังสุดของหนังสือ เมื่อเล่นเสร็จก็ต้องเอาเสื้อผ้าไปเก็บไว้ท้ายรถด้วยนะ




  • Mouse and the Moon made of Cheese | ราคา 140 บาท 
เรื่องราวของเจ้าหนูตัวน้อยที่มุ่งมั่นจะไปยังดวงจันทร์ซึ่ง(มันคิดว่า)ทำด้วยชีส เป็นหนังสือที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความฝันสำหรับเด็กๆ ที่ผู้ใหญ่อย่างมาม๊าอ่านแล้วยังอมยิ้มน้อยๆตามไปด้วย เจ้าหนูจะต้องต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคหลายๆอย่าง เพื่อไปหม่ำดวงจันทร์ชีสให้ได้ สุดท้ายเจ้าหนูจะไปถึงดวงจันทร์ดังที่ฝันไว้หรือไม่ คงต้องลองมาออกเดินทางไปตามหาดวงจันทร์ที่ทำด้วยชีสด้วยกันแล้วล่ะ <3






  •  Peppa Pig The Official Annual 2016 | ราคา 180 บาท
Activity book สุดน่ารักตามแบบฉบับของ Peppa Pig ขวัญใจของเด็กๆ แน่นอนสำหรับเด็กบ้านนี้ด้วยเช่นเดียวกัน (แม้จะไม่เคยให้ดูการ์ตูน แต่เด็กน้อยมีชุดตรวจของคุณหมอหมู Peppa ทำให้เลิฟเจ้าหมูชมพูเป็นพิเศษ การ์ตูนช่างมีอานุภาพร้ายแรง ^^") 
หนังสือประกอบด้วยนิทานการ์ตูนฉบับ Peppa ที่สดใสน่ารักน่าอ่านและแบบฝึกหัดสนุกๆที่สอดคล้องกับนิทานในเล่มให้เด็กๆได้ฝึกทำ ส่วนตัวมาม๊าคิดว่าแบบฝึกหัดในหนังสืออาจจะยากไปสำหรับเด็กวัยเพิ่งจะ 2 ขวบ แต่เนื่องจาก Peppa ช่างมีอิทธิพลต่อหัวใจน้อยๆเหลือเกิน เลยต้องคว้ามาให้และปรับการสอนแบบฝึกหัดให้เหมาะกับวัยของเด็กน้อยเอาละกัน







  • The little red hen | ราคา 110 บาท
หนังสือสีสวยเล่มใหญ่ยักษ์ว่าด้วยเรื่องราวของแม่ไก่สีแดงตัวน้อยและเหล่าผองเพื่อนสัตว์ผู้แสนขี้เกียจในฟาร์ม แม่ไก่ต้องปลูกข้าวสาลีเพื่อทำขนมปัง แต่งานนี้เธอต้องทำเพียงลำพังเพราะไม่มีเพื่อนสัตว์ตัวใดมาช่วยเลย รางวัลของแม่ไก่สีแดงตัวน้อยคือขนมปังหอมกรุ่นน่าหม่ำ แต่สำหรับเพื่อนผู้แสนขี้เกียจล่ะ จะได้หม่ำขนมปังหรือไม่นะ!!!
อ้อ หนังสือเล่มนี้มี Picture dictionary น่ารักๆตอนท้ายเล่มด้วยนะ :D




  •  The Wheels on the Bus | ราคา 140 บาท
เจอหนังสือเพลงประจำบ้านเข้าให้แล้ว มาม๊าคิดว่าเพลงนี้คงเป็นเพลงโปรดของเด็กน้อยหลายๆคน เด็กน้อยบ้านนี้เปิดหนังสือร้องเพลงเต้นตามกันเลยทีเดียว \^^/ 
หนังสือเพลงสีสันสดใสกับเหล่าสัตว์น่ารักๆ พร้อมเพลงคุ้นหูของเด็กๆ มีเพื่อนตามกันมาอีก 3 เล่มนะ ทั้ง If you're happy and you know it, Five in the bed และ Old MacDonald had a farm :3



  •  Goodnight Tiptoe | ราคา 140 บาท
Tilly และเพื่อนๆในบ้านหลังน้อยสีเหลืองต่างง่วงนอนกันหมดแล้ว ยกเว้น Tiptoe น้อยสุดป่วนที่ไม่ยอมเข้านอน Tilly จะช่วยให้ Tiptoe เข้านอนยังไงดีนะ ว๊ายย วุ่นวายเหมือนตัวป่วนบ้านไหนบ้าง hand up!!!





  •  Hello, My name is Ruby | ราคา 230 บาท
Ruby เจ้านกตัวน้อยที่ออกเดินทางเพื่อตามหาผองเพื่อน จนในที่สุดมันมีเพื่อนมากมาย แต่ระหว่างทาง Ruby น้อยได้เรียนรู้อะไรจากการทำความรู้จักเพื่อนใหม่บ้าง มาเป็นเพื่อนกับ Ruby กันน <3





มาม๊าเชื่อว่านิทานสามารถเปิดโลกแห่งจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆได้ หลายบทตอนในนิทานไม่เพียงสอนเด็กๆเท่านั้น แต่มันสอนผู้ใหญ่อย่างเราด้วย มาม๊าชอบประโยคหนึ่งในหนังสือนิทานเรื่อง Mouse and the Moon made of Cheese ซึ่งเป็นคำพูดของคุณพ่อหนูและเจ้าหนูผู้ที่จะเดินทางไปตามหาดวงจันทร์ที่ทำด้วยชีส

Son,.... Why don't you find out, and go into space? 
        But it's ever so far, can it really be done? 
I don't know if it can, but I believe in you, Son

เมื่อลูกจะต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกที่เค้าไม่มั่นใจ เพียงความเชื่อมั่นและไว้ใจของพ่อกับแม่ก็ช่วยผลักดันให้ลูกไปสู่ความฝันอันแสนไกลนั้นได้ :D

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับโลกนิทานนะคะ !!
เลิฟเลิฟ <3
มาม๊าน้องอาย

Saturday, August 13, 2016

Baby checklist : ของใช้จำเป็นสำหรับเบบี๋และเทคนิคช้อปปิ้งแบบสบายกระเป๋า

สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจจะคิดไม่ออกว่าเราต้องเตรียมอะไรสำหรับเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะลืมตาออกมาดูโลกกันบ้าง ตามมาทางนี้เลยค่ะ ก่อนอื่นมาม๊าขอแนะนำให้ทำ Baby checklist! เพราะ
1. ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมของใช้ให้เจ้าตัวน้อยได้อย่างครบถ้วน ไม่ตกหล่น
2. วางแผนได้ว่าของใช้ชิ้นไหนจำเป็นสมควรซื้อก่อนหรือหลัง
3. สิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วยให้สามารถคุมงบประมาณได้... ระดับหนึ่ง ^^"
  • คลิกดาวน์โหลด >> Baby checklist เอาไว้สำหรับไปช๊อปปิ้ง (มาม๊ารีวิวข้อมูลจากหลายๆที่แล้วเอามาปรับใช้ให้เหมาะกับบ้านเราที่สุด คุณพ่อคุณแม่ลองอ่าน รีวิวสารพัดของใช้จากป๋าน้องอายประกอบการตัดสินใจด้วยก็ดีนะคะ :D)
  • คลิกอ่าน >> รีวิวสารพัดของใช้ จากป๋าน้องอาย ว่าสำหรับบ้านนี้ของใช้ชิ้นไหนจำเป็นมากหรือน้อย ใช้งานดีไม่ดียังไง คุณป๋าใส่คะแนนสำหรับของใช้แต่ละชิ้นไว้ด้วยละ :XD
.

ควรซื้อเมื่อไหร่

การเตรียมซื้อของใช้ควรซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เพราะเมื่ออายุครรภ์ราว 7 เดือนไปแล้วคุณแม่จะเหนื่อยง่ายเดินเยอะไม่ไหวแล้วจริงๆ สำหรับมาม๊าจะเริ่มซื้อหลังจาก 3 เดือนไปแล้วค่ะ เพราะช่วงนั้นแพ้ท้องหนักมาก ^^"

ซื้อของที่ไหนดี

พอรู้ตัวว่ามีเจ้าหนูน้อย ด้วยความตื่นเต้นมาม๊าชวนป๊ะป๋าไป shopping ทันทีเลยจ๊ะ เชื่อว่าหลายคนคงมีความรู้สึกเดียวกันคือลมแทบจับ เพราะสินค้าสำหรับเด็กรวมถึงของใช้สารพัดอย่างช่างมีราคาแพง T^T ดังนั้นเรามาหาแหล่งช๊อปแบบกระเป๋าฉีกน้อยๆกันดีกว่านะ

Baby Fair 

เทคนิคการซื้อของใช้ของมาม๊า คือ ซื้อที่งานเบบี้แฟร์ และช่วง sale ตามห้างสรรพสินค้าค่ะ (ซื้อแต่เนิ่นๆอย่างมีสตินะคะทุกคน สำหรับผู้หญิงเราที่เป็น Shopaholic นั้นนนน ก่อนมีลูกชอบ shopping มากแค่ไหน การซื้อของให้ลูกนั้นคูณสิบไปค่ะ T^T)

การไปเดินงานเบบี้แฟร์ ควรมีการเตรียมตัวก่อนไปกันซักเล็กน้อย คำแนะนำคือลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้าเพื่อรับของที่ระลึก (เช่น ตุ๊กตา ผ้ากันเปื้อนเด็ก) และไปช่วงเริ่มงานเพราะบางบูทจะมีของแจกซึ่งจำกัดจำนวน แน่นอนว่าไปถึงก่อนก็มีสิทธิ์ก่อน และยิ่งสายคนยิ่งเยอะเดินลำบากและหาที่จอดรถได้ยากด้วย เพื่อเป็นการประหยัดเวลาควรศึกษาข้อมูลสินค้าที่จะซื้อล่วงหน้า เช่น ยี่ห้อ บูทที่จัด จะได้ไม่เหนื่อยหนักเวลาเดินนะคะ

งานแฟร์สุดพีคน่าเดิน
  • Thailand Baby Best Buy (BBB) จัดทุกๆ 3-4 เดือน สถานที่ : ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  สำหรับมาม๊าการเดินงาน BBB ช่วงก่อนคลอดเป็นอะไรที่ดีมากเพราะมีของให้เลือกเยอะจริงๆ ถึงคนเยอะแต่เราสามารถเบียดเสียดคนได้เพราะเราเป็นสายช๊อป \^^/ แต่พอคลอดแล้วรู้สึกว่าจำนวนคนมหาศาลเกินไปมากสำหรับการพาเด็กเล็กไปเดิน (ดูช่วงเวลาการจัดงานที่ http://www.thailandbabybestbuy.com/)
  • Rakluke Family Festival โดยนิตยสารรักลูก สถานที่ : ไบเทคบางนา หรือ อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี สำหรับมาม๊าคิดว่างานนี้เดินสบายเพราะคนไม่เยอะเท่ากับ BBB แน่นอนของก็เยอะไม่เท่าด้วยเช่นกัน แต่จุดน่าสนใจของงานคือมีกิจกรรมสำหรับครอบครัวภายในงานด้วย เช่น กิจกรรมเล่านิทาน แข่งคลาน หรือการจัดโซนให้ความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กๆ สำหรับงานนี้มาม๊าคิดว่าเหมาะที่จะพาเด็กๆไปด้วย เมื่อเค้าเบื่อหรือเหนื่อยก็มีที่ให้นั่งพักนั่งเล่นได้ อ้อมีห้องสำหรับให้นมและที่เปลี่ยนแพมเพิสด้วยนะจ๊ะ (ดูช่วงเวลาการจัดงานที่ http://www.rlg.co.th/)
  • Amarin baby and kids fair สถานที่ : ไบเทคบางนา งานนี้ก็เดินสบายเช่นเดียวกัน มีของให้เลือกซื้อพอสมควร ซึ่งบูทส่วนใหญ่ก็คล้ายกับงานรักลูก นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมในงานให้ร่วมหลายอย่าง เช่น การถ่ายรูปกับบูทที่จัดในงานเมื่อซื้อสินค้าครบตามกำหนดโดยช่างภาพ กิจกรรมแข่งคลาน และกิจกรรมอื่นๆสำหรับครอบครัว (ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.amarinbabyandkids.com/fair/)

ในงานเบบี้แฟร์มักมีกิจกรรมให้ร่วมเล่นเพื่อรับของรางวัลน่ารักๆกลับมาด้วยล่ะ :D
.

Online Shopping

อีกทางเลือกที่น่าสนใจคือการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากร้านขายสินค้าสำหรับแม่และเด็กซึ่งมีมากมาย ทั้งใน Website, IG และ Facebook ซึ่งบางครั้งก็ราคาถูกกว่าห้าง มีหลากหลายแบบให้เลือก และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางอีกด้วย สำหรับใครที่มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศหิ้วกลับมาเองก็จะได้สินค้าเด็กแบรนด์ดีมีคุณภาพและราคาถูกกว่าห้างสรรพสินค้าในประเทศเยอะเลยค่ะ หรือจะสั่งซื้อสินค้าจาก Website ต่างประเทศก็สะดวกดีเช่นเดียวกัน

Used brand

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่กังวลเรื่องสินค้าที่ผ่านการใช้งานมาแล้วหรือสินค้ามือสอง มาม๊าคิดว่านี่ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับการซื้อสินค้าแบรนด์คุณภาพที่มีราคาแพงๆ เช่น รถเข็น คาร์ซีท หรือเตียงนอนเด็ก แต่ก็ควรตรวจสอบข้อมูลสินค้าแบบค่อนข้างละเอียดซักนิด เลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพ สภาพการใช้งานดี และที่สำคัญควรเลือกร้านที่เชื่อถือได้ (สำหรับคาร์ซีท มาม๊าเคยอ่านบทความว่าไม่ควรซื้อสินค้ามือสองเพราะสินค้าชนิดนี้มีอายุการใช้งาน และจะเสื่อมประสิทธิภาพหากตัวคาร์ซีทเคยผ่านการใช้งานมานานและเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน)


รถเข็นเด็กมือสองยี่ห้อ MACLAREN ซื้อตอนน้องอายอายุ 6 เดือน แข็งแรงและใช้งานได้คุ้มค่ามาก


  •  ดาวน์โหลด Baby checklist เอาไว้สำหรับไปช๊อปปิ้ง :D
  • รีวิวสารพัดของใช้ จากป๋าน้องอาย ว่าสำหรับบ้านนี้ของใช้ชิ้นไหนจำเป็นมากหรือน้อย ใช้งานดีไม่ดียังไง คุณป๋าใส่คะแนนสำหรับของใช้แต่ละชิ้นไว้ด้วยละ :XD


มาม๊าคิดว่าคุณพ่อคุณแม่คงได้ไอเดียการเตรียมซื้อของให้เจ้าตัวเล็กกันบ้างแล้วนะคะ สำหรับใครที่อยากทราบพิกัดแหล่งซื้อ จะมาเล่าให้ฟังครั้งหน้านะจ๊ะ <3